
รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ หังสพฤกษ์ (2578-2561)
อธิการบดีคนที่ 1 (15 กรกฏาคม 2529 - 14 กรกฏาคม 2535)
สามัคคีสร้างองค์กร:
“….การทำงานที่มหาวิทยาลัยนี้โดยเฉพาะยุคเเรก ๆ ยุคที่เราลำบากมาก ๆ อาจารย์เเละเจ้าหน้าที่มีความสามัคคีกลมเกลียวกันอย่างมากเราทุ่มเททำงานกันด้วยความเสียสละเต็มที่ เเละผมเชื่อว่า การมีคนเก่ง มีคนที่มีคุณวุฒิสูงๆอยู่มาก เเต่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้มัวเเต่ทะเลาะเบาะเเว้งกัน จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ต้องมีคนที่มีความรู้ความสามารถเเล้วก็ต้องมีความสามัคคีร่วมกันด้วย…”
ที่มา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. (2553).
มจธ.กับการขับเคลื่อนองค์กร. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

รองศาสตราจารย์ ดร.หริส สูตะบุตร
อธิการบดีคนที่ 2 (15 กรกฏาคม 2535 - 14 กรกฏาคม 2541)
คำสอน:
Succession Plan เป้นส่วนหนึ่งของงานบริหาร พยายามรับคนดี/คนเก่ง ควรเลือกคนที่มีศักยภาพที่เก่งกว่าเราเข้าทำงาน เมื่อจะเเก้ปัญหาต้องคิดทั้งระบบ เเตกปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อยเเก้ไขเเต่ละปัญญา เรื่องเกี่ยวกับคนยอมให้เวลาปัญหาเล็กจะไม่กลายเป็นใหญ่ อย่าคิดว่าทำดีที่สุดเเล้วเร็วเกินไป ต้องกัดไม่ปล่อยใช้ประโยชน์จากความเห็นที่เเตกต่างคิดถึงส่วนรวมก่อนเสมอ คิดทุกคำที่พูด ไม่พูดทุกที่คิด ยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ช่วยเหลือผู้อื่นทุกครั้งที่มีโอกาสเเละให้ความอบอุ่น
และเติมพลังในการทำงานสำหรับผู้บริหารระดับกลาง ประจำปี 2556.

รองศาสตราจารย์ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร
อธิการบดีคนที่ 3 (15 กรกฏาคม 2541- 14 กรกฏาคม 2549)
ความฝัน…อุทยานการเรียนรู้พระจอมเกล้าธนบุรี
“…สังคมไทยต้องโตอย่างมีราก มีประวัติศาสตร์ของตัวเอง ต้องเห็นกระบวนการ ซึ่งมีการบันทึก การเก็บ เเล้วนำมาเเสดงเเละวิเคราะห์ภาษาสมัยใหม่ อาจเรียกว่า Knowledge Management มหาวิทยาลัยโบราณในภาษาอังกฤษ มีหนังสืออายุ 400 -500 ปี มีบทความคลาสสิคของเเฟรงค์ ของไอน์สไตน์ อยู่ในห้องสมุดซึ่งเปิดอ่านได้ สิ่งนี้คือประวัติศาสตร์ หากได้จับต้องรู้สึกมีคุณค่า มจธ. น่าจะมีราก คือการเก็บเอกสาร เเละคิดว่าห้องสมุดน่าจะเป็นสถานที่ดีที่สุด….
การเห็นรากของตัวเองต้องมีด้านวิชาการ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ที่เก็บของ ต้องทำกันทั้งมหาวิทยาลัย ทำวิจัยตลอดเวลาเพื่อให้มีของใหม่ เเละสร้างองค์ความรู้ ต้องมีความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัย ประวัติศาสตร์ไม่ได้อยู่ที่ 50 ปี ไม่ได้หยุดนิ่ง ต้องบันทึกไว้ เเละตัวบันทึกที่ดีที่สุด คือเอกสาร สมุดจด หนังสือ เเละตัวบุคคล ทั้งหมดคือภาพใหญ่ของความฝัน…อุทยานการเรียนรู้
อุทยานการเรียนรู้พระจอมเกล้าธนบุรี วันที่ 31 พฤษภาคม 2554

รองศาสตราจารย์ ดร.ไกรวุฒิ เกียรติโกมล
อธิการบดีคนที่ 4 (16 กรกฎาคม 2549 - 15 กรกฎาคม 2553 )
แผนฉบับที่ 10 มุ่งพัฒนา มจธ. ให้เป็น มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก โดยมีเป้าหมายหลัก 6 ด้าน
1.พัฒนากระบวนการเรียนการสอน
2.สร้างความเป็นเลิศทางวิชาการและวิจัย
3.พัฒนาบัณฑิตและบุคลากรให้สมบูรณ์
4.ปรับโครงสร้างและบริหารจัดการ
5.ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
6.สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมเอื้อต่อความเป็นสากล
แต่ละเป้าหมายมี วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ มาตรการ โครงการ กิจกรรม และดัชนีชี้วัดผล เพื่อให้หน่วยงานภายในนำไปปฏิบัติได้จริงเป้าหมายสูงสุดคือการเป็น มหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับหนึ่งในอาเซียน
ที่มา: แผนพัฒนาเชิงกลยุทธ์ Strategic Plan 2007- 2011 ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554)

รองศาสตราจารย์ ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน
อธิการบดีคนที่ 5 (16 กรกฎาคม 2553 – 21 ธันวาคม 2561)
มุ่งสู่ มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (STI) ในระดับโลกพัฒนาผู้เรียนและบุคลากร มจธ. ให้มี ค่านิยมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) ใช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, การเข้าสู่ World Class University และ Smart University เป็นฐานการพัฒนาปรับตัวสอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี, รวมถึงสนับสนุน STEM Education และการพัฒนากำลังคนทุกกลุ่มวัย
พันธกิจสำคัญ
1.ผลิตกำลังคนระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2.สร้างงานวิจัยและพัฒนาที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
3.ให้บริการวิชาการแก่สังคมและชุมชน
4.สร้างความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และประชาชน ทั้งในและต่างประเทศ
5.เชื่อมโยงการพัฒนาไปสู่ นวัตกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจ
ที่มา: แผนกลยุทธ์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)

รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ เเซ่เตีย
อธิการบดีคนที่ 6 (22 ธันวาคม 2561 - ปัจจุบัน)
เเน่วเน่ตามเเผน :
“… หากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน มจธ.เป็นสถาบันอุดมศึกษาเเห่งเเรก ๆ ที่ออกนอกระบบ ท่ามกลางคำถามที่ว่า จะไปรอดหรือไม่ใน
ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่เเตก เเต่ด้วยการมีแผนพัฒนา 20 ปี พร้อมทั้งเดินหน้าตามเเผนอย่างเเน่วเเน่ ทำให้ มจธ. สามารถยืนหยัดเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นผลิตด้านวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีออกสู่ภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ เเละสังคม มาเเล้วจำนวนมาก ในปี 2563 เรามีแผนพัฒนาในอีก 20 ปีฉบับใหม่ โดยสานต่อใน 3 ภารกิจ คือ
1. พัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีจะเดินหน้าพัฒนาเเละผลิตบัณฑิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้กับประเทศ
2. ค้นหาความรู้ใหม่ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเเละงานวิจัยให้ถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ
3. ด้านบริการทางวิชาการ ทั้ง 3 หน้าที่นี้จะประสบความสำเร็จได้นอกจากต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยจำเป็นต้องการบริหารจัดการที่ดีด้วย
ที่มา: https://siamrath.co.th/